หลักสูตรกายภาพบำบัดบัณฑิต (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2555)
สารบัญ
ชื่อหลักสูตร
ชื่อหลักสูตรภาษาไทย : หลักสูตรกายภาพบำบัดบัณฑิต
ชื่อหลักสูตรภาษาอังกฤษ : Bachelor of Physical Therapy Program
ชื่อปริญญาและสาขาวิชา
ชื่อเต็มภาษาไทย : กายภาพบำบัดบัณฑิต
ชื่อย่อภาษาไทย : กภ.บ.
ชื่อเต็มภาษาอังกฤษ : Bachelor of Physical Therapy
ชื่อย่อภาษาอังกฤษ : B.PT.
ผลการเรียนรู้ที่คาดว่าผู้เรียนจะได้รับจากหลักสูตร
หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2555
เพื่อผลิตบัณฑิตให้มีคุณลักษณะดังต่อไปนี้
- มีคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพและเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพกายภาพบำบัด
- มีความรู้ความสามารถด้านวิชาการ และทักษะในวิชาชีพตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพกายภาพบำบัดรวมทั้งสามารถประยุกต์ใช้และบูรณาการความรู้ทางกายภาพบำบัดกับความรู้ในศาสตร์อื่นๆ ในการประกอบวิชาชีพเพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชนและสังคม
- มีทักษะทางปัญญาในการคิด วิเคราะห์ อย่างเป็นระบบและสร้างสรรค์ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา พัฒนาตนเอง องค์กร ชุมชน และสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี สามารถเป็นผู้นำ ผู้ตาม หรือผู้ประสานงานได้อย่างเหมาะสม และสามารถทำงานร่วมกับสหวิชาชีพ และชุมชนได้อย่างมีคุณภาพ
- สามารถสื่อสารด้วยรูปแบบที่เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้เป็นประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้า แก้ไขปัญหา สนับสนุน และพัฒนาการปฏิบัติงานในวิชาชีพกายภาพบำบัด
- สามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีทักษะพื้นฐานด้านการวิจัย ค้นคว้า และติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จำนวนหน่วยกิตที่เรียนตลอดหลักสูตร
145 หน่วยกิต
รูปแบบของหลักสูตร
รูปแบบของหลักสูตร หลักสูตรปริญญาตรี 4 ปีใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
โครงสร้างของหลักสูตร
การรับเข้าศึกษา
- เป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยพะเยา ว่าด้วย การศึกษาระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2553
การให้ปริญญาแก่ผู้สำเร็จการศึกษา
ให้ปริญญา วท.บ. (เทคนิคการแพทย์) เพียงสาขาวิชาเดียว
แผนการรับนิสิตต่อปีการศึกษา
ปีละ 60 คน
การจัดการศึกษา
เป็นระบบทวิภาค และมีการศึกษาในภาคฤดูร้อนของชั้นปีที่ 3
กระบวนการเรียนการสอน
ใช้กลยุทธ์การสอนที่หลากหลายและเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาผลการเรียนรู้ ตามที่หลักสูตรคาดหวังไว้อย่างครบถ้วนทุกด้าน อาทิเช่น
- ด้านคุณธรรมจริยธรรม: สอดแทรกเรื่องคุณธรรม จริยธรรมและจรรณยาบรรณวิชาชีพในการสอนทุกรายวิชาที่เกี่ยวข้อง เน้นเรื่องสิทธิผู้ป่วยและศักดิ์ศรีคุณค่าของความเป็นมนุษย์
- ด้านความรู้: ออกแบบการสอนที่ช่วยให้นิสิตได้เรียนรู้ได้ด้วยตนเองทั้งที่เป็นหลักการทางทฤษฎีและแนวทางประยุกต์เพื่อการปฏิบัติในสภาพแวดล้อมจริง ได้แก่ เรียนรู้โดยออกให้บริการแก่ชุมชนเชิญผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรงมาสอน
- ทักษะทางปัญญา: จัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ออกแบบการสอนที่ช่วยให้นิสิตเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ทั้งความรู้ที่เป็นหลักการทางทฤษฎีและแนวทางประยุกต์เพื่อการปฏิบัติในสภาพแวดล้อมจริง
- ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ: จัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่มีการทำงานเป็นทีมเพื่อส่งเสริมการแสดงบทบาทของการเป็นผู้นำและผู้ตาม รวมถึงกำหนดกิจกรรมให้มีการทำงานที่ต้องประสานงานกับผู้อื่นข้ามสาขา
- ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ: จัดกิจกรรมที่เน้นให้นิสิตได้ฝึกทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคลทั้งการพูด การฟัง และการเขียน ในกลุ่มผู้เรียน ระหว่างผู้เรียนและผู้สอน และบุคคลที่เกี่ยวข้องในสถานการณ์ที่หลากหลาย
- สุนทรียภาพ: ให้นิสิตบริการตรวจสุภาพทางเทคนิคการแพทย์ในสถานการณ์จริงกับผู้ป่วยในโรงพยาบาล หรือประชาชนในชุมชน
- สุขภาพและบุคลิกภาพ: ให้นิสิตได้ฝึกทักษะวิชาชีพในชั่วโมงปฏิบัติการด้วยการวิเคราะห์สิ่งส่งตรวจที่เป็นของตนเองเพื่อเรียนรู้สุขภาวะของตน และเกิดความระวังสังวรในการรักษาสุขภาพ รวมถึงตั้งกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการป้องกันตนเองแบบทั่วไป (universal precaution)
- ทักษะการปฏิบัติการทางวิชาชีพ: จัดให้มีการฝึกปฏิบัติสถานการณ์จำลองในห้องปฏิบัติการ และการฝึกปฏิบัติในสถานการณ์จริง ณ สถานบริการที่เป็นแหล่งฝึกงาน
วิธีการประเมินผล
ใช้วิธีการประเมินหลากหลายวิธี เพื่อสะท้อนผลการเรียนรู้ที่คาดหวังและเนื้อหาของหลักสูตร อาทิ
- ด้านคุณธรรมจริยธรรม: ประเมินจากพฤติกรรมการเสียสละ และรู้จักการให้ ในกิจกรรมบริการวิชาการต่างๆ ที่แทรกเสริมในรายวิชา
- ด้านความรู้: ประเมินจากการสอบกลางภาคเรียนและปลายภาคเรียนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ และประเมินการนำเสนองานในชั้นเรียน
- ทักษะทางปัญญา: ประเมินจากการนำเสนอรายงานและการตอบข้อซักถามในชั้นเรียน รวมถึงการออกข้อสอบแบบกรณีศึกษาที่ให้นักศึกษาแก้ปัญหา อธิบายแนวคิดของการแก้ปัญหา และวิธีการแก้ปัญหาโดยการประยุกต์ความรู้ที่เรียนมา
- ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ: ประเมินจากพฤติกรรมและการแสดงออกของนิสิตในการนำเสนอรายงานกลุ่มในชั้นเรียน และสังเกตจากพฤติกรรมที่แสดงออกในการร่วมกิจกรรมต่างๆ
- ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ: ประเมินผลงานตามกิจกรรมการเรียนการสอน โดยใช้แบบประเมินทักษะการนำเสนอ การฟัง และการเขียน
- สุนทรียภาพ: ประเมินจากคะแนนฝึกปฏิบัติของนิสิตโดยอาจารย์ผู้คุมฝึกงาน ณ โรงพยาบาลที่นิสิตไปฝึกงานหรือคะแนนความพึงพอใจของประชาชนผู้มารับบริการในชุมชน
- สุขภาพและบุคลิกภาพ: ประเมินจากการสังเกตของอาจารย์ผู้สอน ทั้งเวลาเรียนและเวลาฝึกปฏิบัติหรือเวลาออกให้บริการในชุมชน
- ทักษะการปฏิบัติการทางวิชาชีพ: ประเมินทักษะที่บูรณาการทั้งความรู้ เจตนคติ และการสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลในองค์กรและผู้รับบริการ โดยการสอบปฏิบัติในสถานการณ์จำลอง ณ ห้องปฏิบัติการ และสถานการณ์จริง ณ แหล่งฝึกงาน
เกณฑ์การสำเร็จการศึกษา
- ต้องมีค่าระดับขั้นสะสมเฉลี่ยตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 2.00
อาชีพที่สามารถปฏิบัติได้หลังสำเร็จการศึกษา และสอบได้ใบประกอบวิชาชีพจากสภาเทคนิคการแพทย์
- นักเทคนิคการแพทย์ ในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน หรือเปิดคลินิกเทคนิคการแพทย์
- นักวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ นักวิจัย หรือผู้ช่วยนักวิจัยในสถาบันการศึกษาหรือสถาบันวิจัย
- ตัวแทนบริษัทจำหน่ายเครื่องมือ อุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
- นักวิชาการด้านการประเมินสภาวะสุขภาพในบริษัทประกันชีวิต
- ศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษา ทั้งในและต่างประเทศ ได้หลากหลายสาขาวิชา อาทิ เทคนิคการแพทย์ ชีวเวชศาสตร์ ชีวเคมี พยาธิวิทยาคลินิก พิษวิทยา เทคโนโลยีชีวภาพ นิติวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ และวิทยาศาสตร์สุขภาพอื่นๆ
การพิจารณาอนุมัติ/เห็นชอบหลักสูตร (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2555)
โดยสภามหาวิทยาลัย
อนุมัติหลักสูตร เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2554
โดย สกอ.
เห็นชอบหลักสูตร วันที่ 5 ก.ค. 2555
โดยสภาเทคนิคการแพทย์
รับรองหลักสูตร ในการประชุม ครั้งที่ 6/2558 เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2558
ปรับปรุงครั้งล่าสุด
พฤษภาคม 2560